ประเภทของกล้องจุลทรรศน์ Microscope
1.กล้องจุลทรรศน์ที่ใช้แหล่งกำเนิดลำแสงต่างๆ
1.1) Light Microscopes หรือ Optical Microscopes หรือ Bright field Microscopes
1.2) Dark field Microscopes
1.3) Phase Contrast Microscopes
1.3) Polarized Microscopes
1.4) Fluorescence microscopes
1.5) Confocal Microscopes
1.6) Stereo Microscopes
——————————————————————————————————–
2.กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน(Electron Microscopes)
เป็นกล้องจุลทรรศน์ Microscope ที่มีกำลังขยายมากกว่าแบบที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงมาก ซึ่งสามารถให้กำลังขยายได้ถึงหลักหมื่นหรือแสนเท่า ดังนั้นจึงมีการนำไปใช้ในห้อง Lab เท่านั้น
2.1)Transmission Electron Microscopes(TEM)
เป็นกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่ใช้ศึกษาตัวอย่างชนิดบาง ซึ่งเตรียมขึ้นโดยวิธีพิเศษเพื่อให้ลำอนุภาคอิเล็กตรอนผ่านทะลุได้ การสร้างภาพจากกล้องประเภทนี้จะทำได้โดยการตรวจวัดอิเล็กตรอนที่ทะลุผ่านตัวอย่างนั่นเอง เครื่อง TEM เหมาะสำหรับศึกษารายละเอียดขององค์ประกอบภายในของตัวอย่าง เช่น องค์ประกอบภายในเซลล์ ลักษณะของเยื่อหุ้มเซลล์ ผนังเซลล์ เป็นต้น ซึ่งจะให้รายละเอียดสูงกว่ากล้องจุลทรรศน์ชนิดอื่นๆ เนื่องจากมีกำลังขยายและประสิทธิภาพในการแจกแจงรายละเอียดสูงมาก (กำลังขยายสูงสุดประมาณ 0.1นาโนเมตร)

2.2)Scanning electron microscopes(SEM)
เป็นกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่มีกำลังขยายไม่สูงเท่ากับเครื่อง TEM (เครื่อง SEM มีกำลังขยายสูงสุดประมาณ 10 นาโนเมตร) การสร้างภาพทำได้โดยการตรวจวัดอิเล็กตรอนที่สะท้อนจากพื้นผิวหน้าของตัวอย่างที่ทำการสำรวจ ซึ่งภาพที่ได้จากเครื่อง SEM นี้จะเป็นภาพลักษณะของ 3 มิติ ดังนั้นเครื่อง SEM จึงถูกนำมาใช้ในการศึกษาสัณฐานและรายละเอียดของลักษณะพื้นผิวของตัวอย่าง เช่น ลักษณะพื้นผิวด้านนอกของเนื้อเยื่อและเซลล์ หน้าตัดของโลหะและวัสดุ เป็นต้น
|
ข้อดีของเครื่อง SEM เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่อง TEM คือ ภาพโครงสร้างที่เห็นจากเครื่อง SEM จะเป็นภาพลักษณะ 3 มิติ ในขณะที่ภาพจากเครื่อง TEM จะให้ภาพลักษณะ 2 มิติ อีกทั้งวิธีการใช้งานเครื่อง SEM จะมีความรวดเร็วและใช้งานง่ายกว่าเครื่อง TEM มาก
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น